แบบบ้านชั้นครึ่ง

แบบบ้านชั้นครึ่ง สร้างบ้านสวย แบบบ้าน

แบบบ้านชั้นครึ่ง สวยงามพร้อมฟังก์ชันครบครัน
หากคุณกำลังมองหา แบบบ้านชั้นครึ่ง ที่สวยงามและตอบโจทย์ทุกความต้องการของครอบครัว บ้านชั้นครึ่งถือเป็นตัวเลือกยอดนิยม
ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้นและการออกแบบที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ช่วยให้คุณได้บ้านที่ลงตัวทั้งดีไซน์และการใช้งาน

แบบบ้านชั้นครึ่ง สไตล์คอทเทจ MP-EP 3

แบบบ้านชั้นครึ่งหลังนี้มี 🏡 3ห้องนอน 2ห้องน้ำ 1ครัว 1ห้องโถง พร้อมระเบียงหน้าบ้าน
ขนาดพื้นที่โดยรวม 133.2 ตร.ม.
- บ้านชั้นครึ่งหลังคาทรงจั่ว
ผสมผสานระหว่าง สไตล์คอทเทจ (Cottage) และ สไตล์โมเดิร์น (Modern)เข้ากันแบบลงตัว
บ้านหลังนี้ออกแบบมาเน้นให้บ้านดูโล่งโปร่ง หลังคาบ้านทรงหน้าจั่ว
รายละเอียดการตกแต่งสีขาวทั้งหลังดูอ่อนช้อยสบายตา
มีกลิ่นอายของ Rustic หวานๆ

ปรึกษาฟรี โดย วิศวกร สถาปนิกและช่างผู้ชำนาญ

• 🔗 Line: คลิกที่นี่
• ☎️ โทร: 02-1206859 / 064-649-8717
• 📘 Facebook: MepatCS

รับสร้างบ้านชั้นครึ่ง ที่คุณกำหนดได้เองทุกขั้นตอน
เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านการ รับสร้างบ้าน ที่ช่วยให้คุณออกแบบบ้านชั้นครึ่งในแบบที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น
หรือบ้านที่เน้นความหรูหรา เรามุ่งมั่นที่จะสร้างบ้านที่สวยงามและมีคุณภาพให้กับคุณ

แบบบ้านชั้นครึ่ง

วันนี้แอดมินมาแนะนำเคล็ดลับดีๆ 9วิธีในการออกแบบบ้าน ให้อยู่สบายแถมยังช่วยให้ประหยัดพลังงาน ประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าอีกด้วยเรียกได้ว่าอยู่บ้านสบายใจ และสบายเงินในกระเป๋าไปพร้อม ๆ กันเลยคะ
-มีช่องอากาศตรงจั่วหลังคาหรือชายคา
การรับสร้างบ้านที่มีช่องระบายอากาศบริเวณจั่วนั้นจะช่วยระบายความร้อนที่ถูกกักเก็บไว้บริเวณใต้หลังคาซึ่งจะช่วยให้บ้านของคุณไม่ร้อนเกินไปหรือเครื่องปรับอากาศทำงานหนัก
-ออกแบบให้มีช่องแสงหรือหน้าต่าง
การรับสร้างบ้านที่แต่ละห้องมีแสงธรรมชาติส่องสว่างเข้ามาในห้องได้นั้น ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ไม่เสียเงินค่าไฟฟ้าเพื่อที่จะเปิดโคมไฟ ในเวลากลางวัน
-ปลูกต้นไม้ที่ให้ร่มเงาทางทิศใต้และทิศตะวันตก
การปลูกต้นไม้นั้นสามารถช่วยสร้างร่มเงาและยังช่วยลดความร้อนได้ดีอีกด้วย แต่ทว่าในการปลูกต้นไม้ใหญ่ ควรเว้นระยะจากตัวบ้านให้เหมาะสมเพราะว่ารากไม้นั้นสามารถสร้างความเสียหายกับโครงสร้างบ้านได้

-มีช่องลมเข้าออก2ด้าน
การรับสร้างบ้านที่วางทิศทางของประตูและหน้าต่างไว้ในทิศที่ระบายลมได้ดี การมีช่องระบายอากาศ ที่ถ่ายเทหากันได้ จะช่วยให้ภายในบ้านเย็นขึ้นได้โดยธรรมชาติประหยัดค่าไฟจากเครื่องปรับอากาศได้จำนวนมาก
-ผนังด้านที่ถูกแสงมากให้ใช้วัสดุกันความร้อนได้ดี
เนื่องจากในระหว่างวันมีการสะสมความร้อนในวัสดุ การรับสร้างบ้านควรเลือกวัสดุที่เหมาะสมเพื่อลดการสะสมความร้อน เช่น คอนกรีตมวลเบา หรือฉนวนกันความร้อน เป็นต้น
-ใช้สีทาผนังโทนอ่อน
ตามธรรมดานั้นสีเข้มกักความร้อนได้ดีกว่าสีอ่อน เพราะฉะนั้นการทาผนังด้วยสีอ่อนก็จะช่วยลดอุณหภูมิและความร้อนภายในตัวบ้านได้ในระดับหนึ่ง
-ไม่ควรมีพื้นที่ดาดแข็งอย่างเช่น ลานคอนกรีต ทางทิศใต้และทิศตะวันตก
คอนกรีตเป็นวัสดุที่เก็บความร้อนในตอนกลางวันและจะถ่ายเทความร้อนในเวลากลางคืน การสร้างลานคอนกรีตในทิศทางที่แดดส่องจัด เช่น ทางทิศใต้และทิศตะวันตก นั้นจะทำให้ความร้อนจากพื้นที่ดังกล่่าวถ่ายเทเข้าสู่ตัวบ้านช่วงเวลากลางคืน ซึ่งควรหลีกเลี่ยงการสร้างในทิศดังกล่าวหรือใช้วัสดุอื่นเพิ่มเติม
-รั้วบ้านต้องโปร่ง มีช่องว่างหรือระแนงให้ลมผ่านสะดวก
การรับสร้างบ้าน ที่มีรั้วโปร่งจะให้ความรู้สึกสบายไม่อึดอัด รวมถึงการไหลเวียนของลมที่จะพัดเข้าสู่บ้านจะได้ประโยชน์เต็มที่ และไม่ควรทำจากวัสดุที่เก็บความร้อนเช่น อิฐมอญหรือคอนกรีตเสริมเหล็ก
-สร้างบ้านให้ถูกทิศลมและแดด
มุมของแสงแดดที่ส่องนั้นเป็นมุมต่ำที่เข้าสู่อาคารได้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงการสร้างบ้านที่หันไปทางทิศตะวันตกและทิศใต้ หากจำเป็นต้องสร้างบ้านที่หันไปทางทิศทางรับแดดจริงๆก็ควรมีกันสาดหรือระแนงเพื่อบังแดดเพิ่มเติม

************************************************************

รับสร้างบ้าน แบบบ้านชั้นครึ่ง

.

มาแล้วขร้าาา...วันนี้ รับสร้างบ้าน แบบบ้านชั้นครึ่ง นำข้อมูลดีๆมาฝากเช่นเคยค่ะ

หลายท่านอาจเคยสงสัย?? ก่อนจะสร้างบ้านนอกจากแบบบ้านสวย และบริษัทก่อสร้างที่ได้มาตราฐานไว้ใจได้แล้วยังต้องดูอะไรอีกนะ!! .

ใช่ค่ะ!! (ถามเองตอบเองคะ ) ก็คือ "แปลนบ้าน"เหมือนที่หลายคนคิด ถือว่าเป็นอีกสิ่งสำคัญลำดับต้นๆเลยก็ว่าได้

คงจะไม่มีใครอยากได้บ้านที่ร้อน หรือเปลืองค่าไฟเพิ่มขึ้นเป็นแน่

แดด

- แดดเอียงอ้อมไปทางทิศใต้ ช่วงเดือนมกราคม เมษายน และเดือนกันยายน – ธันวาคม (8 เดือน) (o_O!! ) ขอ SPF 200 ด่วนค่ะ!!
- แดดเอียงอ้อมไปทางทิศเหนือ ช่วงเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม ( 4เดือน)

ลม - ลมประจำอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ กันยายน ( 8 เดือน )
- ลมประจำอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศเหนือ ช่วงเดือนตุลาคม มกราคม ( 4 เดือน )

 เมื่อรู้ทิศแดดและลมแล้วเท่านี้ก็ง่ายนิดเดียวค่ะ
เพียงแค่เราวางแปลนห้องให้ถูกกับทิศลมและแดดเท่านั้นเอง
มีหลักการวาง แปลนห้องดังนี้ค่ะ.....
 ทิศตะวันออก
- จะได้รับแสงแดดช่วงเช้า ช่วงสายจะร่มเหมาะแก่การเป็นห้องรับแขกหรือห้องรับประทานอาหาร 

ทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้
- จะเป็นทิศที่โดนแดดแทบทั้งปี ควรเลี่ยงการทำผนังให้โดนแดดโดยตรง อาจจะจัดเป็นโรงจอดรถ หรือห้องเก็บของ รวมถึงการเพิ่มช่องทางลม เช่น บานหน้าต่าง เพื่อให้อากาศถ่ายเทั้งวันก็ได้ค่ะ

ทิศตะวันตก
- จะได้รับแสงแดดและความร้อนมากที่สุด ควรจัดเป็นลานซักล้างหรือห้องน้ำก็ได้ค่ะ ความร้อนจะช่วยลดความชื้นและกลิ่นอับต่างๆได้ด้วย

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
- จะได้รับแดดแค่ช่วงเช้าและรับลมหน้าหนาวได้ดี ควรจัดเป็นห้องทำงานเพราะจะสามารถทำงานแบบสบายได้ทั้งวัน

ทิศเหนือ
- ทิศนี้จะได้รับแสงน้อยที่สุดแต่สามารถรับลมหนาวได้ดี เหมาะแก่การเป็นห้องนอนเพื่อพักผ่อนอย่างแท้จริงเลยค่ะ

***

** ถ้าอยากเพิ่มอากาศเย็นให้มากยิ่งขึ้น ก็สามารถปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มร่มเงาหรือคลายละอองน้ำทางทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้ก็ได้เช่นกันค่ะ จะได้ลมช่วยพัดความเย็นเข้าบ้านตลอดทั้งปีด้วย......

จบแล้วค่ะ.............หาก รับสร้างบ้าน แบบบ้านชั้นครึ่ง มีข้อมูลดีเพิ่มจะมานำเสนอให้ทุกท่านอีกนะคะ สวัสดีค่ะ ^^

แบ่งปันข้อมูล : ฝ่ายวิจัยและพัฒนา

บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

**************************************************************
แบบบ้านชั้นเดียว
แบบบ้านชั้นเดียว สไตล์เนเชอรัล (Natural Style) แบบบ้านชั้นเดียว สไตล์ลอฟท์ (Loft Style) แบบบ้านชั้นเดียว สไตล์มินิมอล (Minimalist Style) แบบบ้านชั้นเดียว สไตล์วินเทจ (Vintage Style) แบบบ้านชั้นเดียว สไตล์โคโลเนียล (Colonial Style)